วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สมัครครั้งที่สองก็ได้เลย กาต้าร์แอร์เวย์ (1)

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร สายการบินเบอร์กันดีที่รักของพวกเรานี้มาเปิดรับคนแทบทุกเดือนแถม process แต่ละเดือนก็มีเซอร์ไพรส์ตลอด รอบมีนาแยกเอื้อมแตะและข้อเขียนออกจากกัน รอบเมษาก็เพิ่ม Public speaking มา แถมรอบนี้เธอเพิ่ม pre-screen เป็นสองวันน่ากลัวสุดๆ กับความติสแตกของเธอ

ที่จริงๆแล้วอยากเขียนบล็อกอัพนู่นนี่นั่นไปเรื่อย แต่ก็ขอเจิมบล็อกแรกด้วยเรื่องล่าฝันเป็นแอร์ เพราะเห่อติดปีกไปอย่างสวยงามที่รอบ Apr'14 นี้

ถ้ายังไงก็ขอเล่าบรรยากาศ ขั้นตอน นู่นนี่นั่นหน่อยเลยละกันแบบละเอียดสุดๆ

คร่าวๆ process ส่วนใหญ่จะมีประมาณนี้
1.      Pre-screening Day – Day 1 (ผู้สมัครมาจากการคัดเลือกผ่านจดหมาย invitation)
2.      Arm reach+ Writing stage – Day 2 (ผู้รอดชีวิตจากวันที่ 1)
3.      Group discussion – Day 2 (ผู้รอดชีวิตจาก Arm reach+test ภายหลังแยกออกจากกัน)
4.      Final round – Day 3 (ผู้รอดชีวิตจากวันที่ 2)

"แต่…………….อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีว่า process บางส่วนได้เปลี่ยนแปลง เพิ่มนั่น ลด นี่ จนบางที่ไม่สามารถคาดเดาได้ซึ่งโดยทั่วไปก็ยังคง process ข้างบนอยู่ – อ้างอิงจากรอบ
Mar'14 - Apr14"

เริ่มจาก จม Invitation
            จดหมาย invitationคือบัตรผ่านให้เข้าไปโชว์ตัวกับกรรมการได้ ซึ่งเมื่อก่อนให้ walk-inได้ แต่คนเยอะเธอเหนื่อย เธอก็เลยเปลี่ยนเป็นส่งบัตรเชิญ ใคร walk-in มาเธอไล่กลับสถานเดียว แต่ก็นะ...เราได้ผ่านรอบนี้มาก็เพราะ walk-in ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้ invite อาจเป็นเพราะเราเปลี่ยนอีเมลล์ หรือเปลี่ยน essay เพราะนอกนั้นตอบคำถามเหมือนเดิมเลย ในขณะเพื่อนเราคนนึงที่ได้ invite ตลอด เค้าส่งเมล์เดิม essay เดิมทุกครั้งเลยนะ น่าคิด 

       ลองดูว่าตัวเองมีอะไรดีบ้างก็ให้เขียนส่วนนั้นลงไป คำถามของเขาคือ Please tell us in less than 100 words what qualities you have that will make you an outstanding 5-Star Cabin Crew member and how you have demonstrated them in the past. Characters Left:0 / 2000” เราก็ควรจะนึกว่าถ้าเราเป็นนายจ้าง เราอยากได้ลูกเรือแบบไหนบ้าง อย่างที่แน่ๆ คือเค้าคงไม่ชอบคนขี้เกียจเนอะ ควรจะอ่านคำสั่งให้ดี

รอบสามวิสุดโหด (เปลี่ยนเป็นรอบ small talk แล้วฟันธงว่ามากกว่า สามวิ แน่นอน)

ขั้นตอนคือเราต้องเข้าไปยื่น resume/CV กับเอกสารที่ต้องเตรียมไปให้ครบที่กรรมการ แล้วเธอก็จะถามคำถามทั่วไปเช่น How are you? What are you doing? หรือคำถามประหลาดๆ Where did you buy your suit? Did you make up yourself? เป็นต้น
ปล. คนที่ลืมหรือเอกสารหาย ก็เห็นว่านำมาให้ในวันต่อไปได้ ถ้าคุณผ่านเข้ารอบ

อย่าลืมว่าวันนี้มีผู้เข้ารอบจากอินไวท์เกือบพันคน ฉะนั้นการสัมภาษณ์คงไม่ได้เจาะลึกมาหรือนานมาก เพราะกรรมการคงไม่มีเวลามากเท่าไร ยกเว้นว่ากรรมการจะมาหลายคนแล้วมีเวลาทั้งวัน แต่เราคิดว่าคนละ 2-3 นาทีก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่า ใครได้ไปต่อ บางคนก็แทบจะไม่โดนถามอะไรเลย ไม่แม้แต่จะมองหน้าเพราะฉะนั้นเราต้องดึงความสนใจจากรรมการมาที่ตัวเราให้ได้ อย่างของเราทุกครั้งที่ต้องเข้าไปสัมภาษณ์กับกรรมการก็จะเป็นคนเริ่มต้นทักก่อนทุกครั้งและชวนกรรมการคุยเองตลอด

**รอบนี้หลายคนบอกว่าอยู่ที่ดวง แต่เราขอค้านนะ เพราะหลายอย่างมันมาพร้อมบุคลิกหน้าตาท่าทาง ว่ามีเสน่ห์หรือเข้าถึงง่ายไหม ยิ้มหวานป่าว พูดจาไพเราะ และไม่ใช้ภาษาแบบห้วน ๆ(โดยไม่รู้ตัว) อ่ะ เช่น เบสิคๆ ควรใช้ประโยคที่แสดงความนอบน้อม (รวมถึงในชีวิตจริง) เช่น would you/I would like to say ไรเลยเงี๊ยะ อีกเคสคือการพูดแบบอ้ำๆอึ้งๆ รวมถึงบางคนที่พูดไปจบประโยคทุกครั้งด้วยการพูดด้วย yeah มันดูแล้วเสียบุคลิกอย่างแรงเหมือนคนพูดเองเออเอง 
บุคลิกที่ดีช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดูดี อย่าเดินหลังค่อม ขาถ่าง และใครที่รู้ตัวว่ายังมีข้อด้อยก็คงต้องรีบปรับ คนที่ยังไม่รู้ตัวแนะนำว่าลองถามคนรอบตัวดูเอานะ อย่างเราก็ต้องกลับมาย้อนมองตัวเองเมื่อครั้งที่ตกรอบเหมือนกันว่า ทำไม ซึ่งบางทีก็มีหลายจุดนั่นแหละที่เรารู้ตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ละเลย เช่น ฟันหน้ามีฟันตายสีเปลี่ยน และเหลืองก็ไม่ยอมไปทำ ตรงนี้ไม่ต้องถึงขนาดสมัครแอร์มันก็ควรจะทำจริงไหม แบบนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นดวงหรือโอกาสอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มันจะไม่ช่วยให้เราไปถึงฝั่งถ้าเราไม่ทำตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสที่กำลังจะเข้าตั้งแต่แรก

ตัวอย่างจากเคสเรา เราไม่ได้อินไวท์รอบ Apr"14 แต่ก่อนหน้านั้นมันมีประกาศของ Qatar facebook แว็บๆว่า ให้ walk-in ได้แต่เขาก็ลบโพสต์ออกไปไม่นาน ทำให้เรางงว่าจะเอายังไง สุดท้ายเราทำใจเลยว่าไม่ได้แน่ ก็แต่หน้าแต่งตัวออกไปลัลล๊าแบบจัดเต็ม ปรากฏว่าตอนบ่าย 3 เพื่อนไลน์มาบอกว่าเค้าวอคอินได้ เลยให้แฟนบึ่งรถกลับคอนโดทันที ซึ่งเค้าปิดรับสมัคร 5 โมงเย็น

โอเคเราอาจโชคดีที่แต่งหน้าอยู่แล้วเลยใช้เวลาเตรียมตัวไม่นาน บ้านใกล้โรงแรม และเป็นวันสงกรานต์รถไม่ติด เลยไปถึงทันเวลา แต่………….ถ้าเราเข้าไปอ่านในเว็บ Thaicabincrew หรือcabincrewwannabe แต่แรก เราคงรู้ข่าวตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว ไม่ต้องวิ่งกระเซอะกระเซิงไปหรอก

เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้ทุกคนอย่าพึ่งโชคลางมาก ตะกุยดาวลงมือทำด้วยสองมือของเรามันจะไปเร็วกว่า เราจะไม่ย่อท้อ และเราจะภูมิใจกับมันมากกกกก


รีบมากจนกรูมมิ่งผมห่วยสุดๆ


เหตุการณ์ ณ ตอนสัมภาษณ์

อย่างที่บอกว่าเราวอคอิน Open Day 9.00-17.00 เราเข้าไปถึงตอน4 โมง คือ รร โล่งมาก ไม่มีใครเรารีบวิ่งตั้งแต่แฟนจอดรถหน้าโรงแรมแล้ววิ่งไปหน้าห้องสัมภาษณ์ซึ่งไม่มีใครเลยนอกจากผู้สมัครคนอื่นๆสองสามคนก็เลยรีบไปหากรรมการ

เรา(เคาะประตู)  - May I come in?
กรรมการ            - Yes, How r u?
เรา                    - Very fine a little bit exited, thanks. Here is my CV pls. (ยื่นให้ไปแต่ CV มือสั่นเพราะวิ่งมาและตื่นเต้นมากก)
กรรมการ            - Oh and Do you have your passport with you?
เรา                    - Oh yes! here u r. (ยื่นให้แบบว่า ชิบหายละ555 พลาดเลย แต่ก็หน้ายิ้มตลอดนะ แต่คือใกล้จะยิ้มไม่ออกเพราะไม่มีinvitation นี่ล่ะ ด้วย แต่ The show must go on ง่ะ)
กรรมการ            - And Do u have any invitation? (นั่นไง! มาจนได้คำถามนี้)
เรา(ยิ้มมมม)      - Oh certainly not mam, I just try my luck today.(ยิ้ม)
กรรมการ            -   (หันหน้าไปมองกัน ยิ้ม) How do you get here?(กรรมการอีกคนหันมาถาม)
เรา                    - (ไม่แน่ใจว่าถามว่ามายังไงรึเปล่า แต่ไม่น่าจะใช่เลยตอบว่า) My friend came here without any invitation this morning and she got the invite for tomorrow so I just come here to try my luck as I say.
กรรมการ            - ขำแบบอีนี่ช่างกล้าแต่ก็ให้ใบอินไวท์มา ชี้แจงให้มาพรุ่งนี้

***(ใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 5 นาที นับตั้งแต่มาถึง รร.ฟลุคมากเพราะคิดว่าไว้ว่าจะโดนปฏิเสธกลับมาแน่ๆ เนื่องจากเราไม่มี invite แฟนเราจอดรถเสร็จเดินเข้ามาในพอดีกันกับที่เราสัมภาษณ์เสร็จแล้วเดินออกจากห้อง แฟนถามว่ารอคิวเหรอเราตอบว่าเสร็จแล้วและโชว์ใบอินไวท์ เธอแอบเงิบ 555555ต่างกับรอบ March14 มากกก เพราะกว่าจะผ่านแต่ละ Process ช่างยากเย็น)

ข้อสังเกตเรื่อง Grooming

 - เรื่องคอนแทคเลนส์ที่หลายคนอาจจะสงสัย วันที่เราทำกรุ๊ปกรรมการได้พูดชัดเจนที่หน้าห้องก่อนจะเข้าไฟนอลรอบเมษา ว่า “Whatever you do for your beauty for tomorrow. Pleaseeeeee don’t wear contact lens because I don’t want it to irritate you like someone I saw today” และคอนแทคเลนส์สีๆ ถ้าใส่ไปมักจะโดนถาม เช่นเพื่อนเรารอบ Apr14 เป็นลูกครึ่งแต่ยังไม่ออกฝรั่งมาก แล้วตาเค้าสีน้ำตาล ก็โดนถามว่าใส่คอนแทคเลนส์มาไหม พอเพื่อนเราตอบว่าไม่เค้าก็ขอดูใกล้ๆ เลยค่ะ ส่วนอีกคนใส่คอนแทคสีดำ กรรมการถามตั้งแต่วัน pre-screen ว่า ใส่คอนแทคเลนส์มาใช่ไหม พรุ่งนี้ถอดออกด้วยนะ (ทั้งสองคนนี้เข้าไฟนอลหมดค่ะ) **ในกรณีคอนแทคสายตาเราว่าใส่ได้นะเพราะเพื่อนๆเราที่ไปตรวจร่างกายด้วยกันก็มีทั้งคนที่สายตาปกติและไม่ปกติ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ใส่แว่นไปตอนสัมภาษณ์
- ส่วนถุงน่องใส่ได้ค่ะเพราะเราใส่ไปเพราะขาลายมากๆ ซึ่งรอบมีนาเราไม่ได้ใส่แต่อาศัยลงรองพื้นซึ่งก็กลบไม่ค่อยมิดเท่าไร แต่พอไปถึงมีแต่คนใส่ถุงน่องมา เราฟีลแบบ เซงมากกกก  
- ทรงผมมีหลายทรงค่ะที่ไปสมัครกัน เรารวบเป็นหางม้าแล้วใส่เน็ตมวยต่ำปาดเจล ฉีดสเปรย์ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เพื่อนๆก็เลือกที่ทำแล้วสวย จะทำที่ร้านหรือที่บ้าน ตามใจค่ะ แต่ดูแล้วที่นี่ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องกรูมมิ่งมากเท่าที่คิดเพราะมีคนมัดหางม้าแล้วผ่านด้วยน้า แต่....เราอยากให้ทำทรงที่เซฟที่สุดจะได้ไม่ต้องเซงทีหลังว่า “กุตกเพราะเรื่องนี้ป่าววะ”
- ต่างหูส่วนใหญ่จะใส่มาแบบเรียบๆ กันค่ะ
- ชุด วันที่สมัครก็เห็นแบบหลากหลายมากๆ เช่นสูทสมัครแอร์ เสื้อเบลาซ์อกฟูกับกระโปรงเอวสูงดินสอ ชุดเดรสเข้ารูป ซึ่งมีทุกสีค่ะ ชมพูเขียวเหลืองแสดแดง พี่คนนึงที่สมัครด้วยกันเค้าใส่สีเขียวอมฟ้าอ่อนๆ กรรมการก็ยังทักว่าเสื้อสวยด้วย you look bright มาก กับเพื่อนอีกคนโดนกรรมการถามว่า Why are so many people wear red suit? Does it mean good luck or something? กรรมการเค้าคงงงว่าทำไมต้องใส่สีแดงกันเต็มไปหมด ก็น่าจะพูดได้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงนะคะ ที่ต้องพูดเรื่องสีแดงนี้เพราะทุกคนต้องเคยได้ยินมาแน่นอนว่า “ตะวันออกกลางต้องสีแดง”
- เล็บทาให้เหมาะกับการสมัครงานค่ะ เราต่อเล็บและทานู๊ดชมพู (รอบโอมานทาสีแดง) แต่…..มีคนเพ้นท์สีรุ้งค่ะ รอบ Mar14 พอกรรมการถาม เธอก็ตอบว่าชั้นมั่นใจและคิดว่าสวยในสีนี้ ก็เข้ารอบด้วยค่ะ อร๊ายย ร้ายได้อีก!!!!
ขนตาปลอม เห็นคนติดและเข้ารอบค่ะ
- ผู้ชายคงไม่มีอะไรมากค่ะ เห็นใส่กันแต่สูทสามสี ดำ เทา กรมท่า ฮิตสุดๆ คือ ดำและเทาแบบน้อยมาก ๆ ง่ายที่สุดละค่ะ ชีวิตผู้ชาย
- เอกสารแนะนำให้ทำ copy สักสองอันค่ะเผื่อไว้ ของเรามีทั้งตัวจริงและ copy 3 ฉบับ


เราใส่สีแดง เพราะเป็นสีนำโชค และเราคิดว่าเราใส่แล้วสวย 555555

- ชุดสูทซื้อจากร้านที่สยามชื่อ V-design ไม่ได้ม้านะ จขร น่ารักมากๆ แนะนำหมดว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา เราใส่แดงเข้มค่ะข้างในเกาะอกเสริมนม และกกนก้นปลอม ทั้งหมดจากสยาม ลิโด้เย็น

- รองเท้า Naturalizer สีดำสูงสามนิ้ว (สูงกว่านี้ได้นะคะเห็นมีคนใส่ส้นเข็มสูงปรี้ดเข้ารอบด้วย)
- กระเป๋า ForeverXXI สีดำ ในกระเป๋าบรรจุเครื่องสำอางที่จำเป็นทั้งหมด วาสลีน(ทาฟันเพื่อไม่ให้ลิปติดโดยเฉพาะสีแดง ขนมปัง ของมีค่า โทรศัพท์ ทิชชู่)



ทิ้งท้ายไว้นิดหน่อยกับคุณสมบัติ 3 ข้อที่สายนี้ต้องการ ซึ่งมาจากข้อสังเกตเล็กๆ น้อย ๆ แต่จี๊ดด!! จาก Post facebook ของกาต้าร์ที่เคยพูดถึงนั่นคือ
Confidence Charisma and Amazing smile!!!!




ขอให้ทุกคนโชคดีสำหรับรอบ Pre screen มีอะไรถามได้ตลอดนะคะ ขั้นตอนอื่นๆ อัพบล็อคต่อไปเพราะมันยาวค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2 ความคิดเห็น: